ก่อน พ.ศ.๒๔๔๐
ประเทศไทยรู้จักใช้วิธีชั่งตวงวัดกันแพร่หลาย มาแต่โบราณกาล วิธีที่นิยมใช้กันมาก ได้แก่วิธีของไทย, ของจีน และวิธีของฝรั่ง ซึ่งมีพิกัดอัตราไม่เท่ากัน ซึ่งทำให้เป็นอุปสรรคต่อความเจริญในการค้าขาย
พ.ศ. ๒๔๔๐
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๕) มีพระราชปรารภ ที่จะวางระเบียบการชั่งตวงวัดให้เป็นหลักฐาน จึงตกเป็นหน้าที่ของกระทรวงเกษตรพาณิชย์การในการวางระเบียบในเรื่องนี้ ซึ่งเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรีได้คิดที่จะใช้วิธีมาตราเมตริก เมื่อ รศ.๑๑๖ (พ.ศ.๒๔๔๐) แต่ยังไม่เป็นผลสำเร็จ
พ.ศ.๒๔๔๔
เจ้าพระยาเทเวศร์วงษ์วิวัฒน์เสนาบดีกระทรวงเกษตราธิการ ได้รวบรวมเอาเฉพาะการตวงขึ้นมาพิจารณา เพราะเหตุว่าประเทศสยามมีสินค้าข้าวที่จะต้องตวงซื้อตวงขายเป็นสินค้าสำคัญจึงได้ร่าง พระราชบัญญัติอัตราตวงขึ้นมา ซึ่งขณะนั้นยังไม่มีการชั่งและการวัด
พ.ศ. ๒๔๔๕
รัชกาลที่ ๕ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เพิ่มมาตราการชั่งและวัดเข้าด้วย เจ้าพระยาอภัยราชา (Mr.Rolin Jacquemyns) ที่ปรึกษาราชการแผ่นดิน กับนายชเลสเซอร์ที่ปรึกษากฎหมาย ได้ร่าง “พระราชบัญญัติวัดตวงและชั่ง” ร.ศ.๑๑๙ ขึ้นใหม่ โดยบัญญัติให้ใช้เป็นวิธีเมตริก
พ.ศ.๒๔๔๘
รัชกาลที่ ๕ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งกรรมการขึ้นชุดหนึ่งเพื่อพิจารณาว่าควรใช้เครื่องชั่งตวงวัดวิธิใดจึงจะเหมาะ และคณะกรรมการได้ ถวายรายงานกราบบังคมทูลว่า ควรใช้วิธีเมตริกเป็นแบบเดียวกัน
พ.ศ.๒๔๕๒
ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่กัว (รัชกาลที่ ๖) เจ้าพระยาวงศานุประพันธ์ เสนาบดีกระทรวงเกษตรธิการได้ทำหนังสือ กราบบังคมทูลว่าเห็นควรที่ประเทศสยามจะเข้าร่วมในอนุสัญญาระบบเมตริก (Metric Convention) และกระทรวงเกษตรธิการจึงเรื่องทำการติดต่อกับสำนักงานชั่งตวงวัดระหว่างประเทศในเรื่องการขอเข้าเป็นสมาชิก
พ.ศ.๒๔๕๔
รัชกาลที่ ๖ ทรงโปรดเกล้าฯ ให้เสนาบดี กระทรวงมหาดไทยเสนาบดี กระทรวงพระคลัง และเสนาบดีกระทรวงนครบาล ประชุมปรึกษากัน ทำความเห็นในเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง ที่ประชุมทูลเกล้าฯ ซึ่งถวายรายงานความเห็น ว่าควรรับแบบวิธีเมตริกมาใช้
พ.ศ.๒๔๕๕
ประเทศไทยได้แจ้งความจำนงที่จะขอเข้าร่วมเป็นสมาชิกไปยังสำนักงานชั่งตวงวัดระหว่างประเทศ ที่ประเทศฝรั่งเศส และได้เข้าเป็นสมาชิกในปีนั้น
พ.ศ.๒๔๖๖
รัชกาลที่ ๖ โปรดเกล้าฯ ให้ตรา “พระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัด พระพุทธศักราช ๒๔๖๖” ซึ่งถือเป็นกฎหมายแม่บทของกฎหมายว่าด้วยมาตราชั่งตวงวัดของประเทศ และในปีถัดมา ได้มีการออกกฎเสนาบดีฉบับแรกขึ้น เพื่อปฏิบัติตามพระราชบัญญัติดังกล่าว
พ.ศ.๒๕๓๘
ประเทศไทยได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การระหว่างประเทศว่าด้วยกฎหมายชั่งตวงวัด
พ.ศ.๒๕๔๒
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตรา “พระราชบัญญติมาตราชั่งตวงวัด พ.ศ.๒๕๔๒” ขึ้น และได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ฉบับกฤษฎีกา เล่มที่ ๑๑๖ ตอนที่ ๒๙ ก วันที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๔๒ ซึ่งมีผลให้ใชับังคับเป็นกฎหมายตั้งแต่วันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๔๒
ขอบคุณข้อมุลจาก สมาคม ชั่ง ตวง วัด http://www.thaiweight.com/thaiweight-9.php