โครงสร้างการบริหารงานโรงแรม (Hotel Organizational Structure) ตอนที่ 1
ธุรกิจโรงแรมของไทยเป็นธุรกิจที่น่าให้ความสนใจเป็นอย่างมากเพราะปีๆหนึ่ง อุตสาหกรรมประเภทนี้ทำรายได้ให้กับประเทศเป็นจำนวนหลายๆ พันล้านบาท เดิมทีอุตสาหกรรมประเภทโรงแรมเกิดขึ้นมาจากกิจการพ่อค้าคนเดียว ซึ่งการบริหารงานต่งๆนั้นตั้งแต่ระดับผู้จัดการลงไปจนถึงระดับพนักงานให้บริการในตำแหน่งต่างๆ ก็จะอาศัยบุคคลเพียงคนเดียวหรืออาจจะให้ลูกๆหรือพี่น้องในครอบครัวของตนเองช่วยจัดการกัน โดยใครว่างก็จัดการทำไปโดยไม่ได้มีตำแหน่งและแผนกให้อยู่อย่างปัจจุบันนี้
แผนผังแสดงการบริการงานแบบกิจการพ่อค้าคนเดียว
ในปัจจุบัน ได้มีการนำความรู้ วิทยาการต่างๆ มาปรับปรุงและพัฒนาโครงสร้างการบริหารงานโรงแรม (Hotel Organizational Structure) ให้เป็นแบบสากลมากขึ้น โดยแบ่งงานที่บริหารออกเป็น 3 ส่วนอย่างเหมาะสม คือ
งานของผู้บริหารทั้ง 3 ขั้นตอนนี้ จะต้องปฏิบัติงานให้สัมพันธ์กันอย่างมีประสิทิภาพ เพราะกิจการจะรุ่งหรือจะทรุดก็ขึ้นอยู่กับผู้บริหารทั้ง 3 ขั้นนี้
- ผู้บริหารระดับ Top management เป็นผู้บริหารระดับสูงของโรงแรม ดังนี้ ผู้ถือหุ้น (Share Holder), Managing director, General Manager, Asst. General Manager
- งานการบริหารระดับกลาง (Middle Level) งานในระดับนี้เป็นงานที่สำคัญมากเช่นกัน เจ้าหน้าที่ในตำแหน่งนี้ได้แก่ ผู้จัดการขอแต่ละแผนก (Head of the Department) เช่น Front Office Department, Housekeeping Department, Food & Beverage Department เป็นต้น บุคคลในตำแหน่งนี้จะคอยรับคำสั่งจาก Top management มาและนำไปปฏิบัติและสั่งการไปยังระดับต่ำของตนอีกทีหนึ่งต่อไป
- การบริหารงานในระดับต่ำ (Supervisory Management) เจ้าหน้าที่ระดับนี้ จะคอยรับคำสั่งโดยตรงจากหัวหน้าแผนกนั้นๆที่ตนสังกัดอยู่ (Head of the department) อย่างเดียว ซึ่งัวเขาในตำแหน่งนี้ คือระดับ Supervisor (หัวหน้างาน) จะกระจายคำสั่งไปยังลูกจ้างระดับต่ำลงไปอีกทีหนึ่ง ซึ่งจะได้นำคำสั่งไปปฏิบัติต่อไป และตนเองก็มีหน้าที่คอยดูแลและให้คำปรึกษาอยู่ด้วยเพราะตนเองกว่าที่จะได้อยู่ตำแหน่งนี้ก็หมายความว่าตนได้ผ่านงานสิ่งเหล่านี้มาก่อนแล้ว และคอยเป็นบุคคลที่คอยทำหน้าที่รายงานว่าสางที่ได้ทำไปนั้นๆสำเน็จหรือไม่สำเร็จ จะต้องรายงาน (Report) เพื่อให้เจ้านายตนเองรับรู้ด้วย
แม้กว่ากิจการโรงแรม เป็นกิจการที่สามารถสร้างรายได้ต่อปีไม่น้อยเลยทีเดียว แต่การที่จะทำให้แขก หรือลูกค้านิยมมาใช้บริการในโรงแรมของตนให้มากขึ้นนั้น ก็ย่อมขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายด้านด้วยกัน อาทิเช่น
- ทำเลที่ตั้ง
- ราคาห้องพักและอื่นๆ
- การให้บริการแขกที่ประทับใจ
- ความสะดวกสบายต่างๆที่แขกพอใจ
- อาหารอร่อยและราคาพอควร
- การบริหารงานที่ได้มาตรฐาน
- ฯลฯ
สิ่งเหล่านี้ ขึ้นอยู่กับมาตรฐานการให้บริการที่ดี ซึ่งผมแนะนำให้เน้นไปยัง มาตรฐานสากล เพราะเป็นการให้บริการโรงแรมแบบที่สากลยอมรับ โดยเริ่มตั้งแต่การจัดโครงสร้างการบริหารงานโรงแรม โดยจะต้องทราบก่อนว่า โรงแรมของเราเป็นโรงแรมขนาดเล็ก กลาง หรือใหญ่ จึงจะสามารถวางแผนได้อย่างเหมาะสม และอย่าลืมเลือกใช้เครื่องทุ่นแรง เช่น ระบบจัดการโรงแรมที่มีมาตรฐาน ใช้งานง่าย รองรับการพัฒนาปรับปรุงกิจการโรงแรมของเราต่อไป
ระบบ Hotel Management Software ที่ดีจะสามารถเชื่อมต่อกับระบบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลักได้อย่างราบรื่น (SEAMLESS INTEGRATION) เช่น ระบบ ERP ดังต่อไปนี้
- CLUBmanager membership and loyalty administration, recreational activities and wellness management
- PHONEmanager telephone call and billing management
- FAXmanager facsimile transmission and receiving with scheduling and status management
- INNsync data synchroniser linking offices across geographic boundaries
- CIMSOweb on-line customer profile management and activity scheduling
- Restaurateur food and beverage (F&B) points of sale
- SHOPkeeper retail points of sale for shops and superettes
- GOLFmanager T-bookings, green fees and competition scoring
- SPAscheduler SPA and wellness management
- INNkeeper lodging reservations, room rates, front office and City Ledger management and control system